05 พ.ค. 2565 | 17:07:32
วันที 5 พฤษภาคม 2565 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ปคม., เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปคม. ได้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ, กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, กระทรวงแรงงาน และฝ่ายปกครองอำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี ร่วมช่วยเหลือ นางอัมพร (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่ถูกหลอกไปทำงานขายบริการทางเพศ ที่เมืองดูไบ สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2565 เวลาประมาณ 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปคม. พร้อมเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ นายอำเภอวังสามหมอ สำนักงานจัดหางานจังหวัดอุดรธานี สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุดรธานี, แรงงานจังหวัดอุดรธานี เทศบาลตำบลบะยาว ได้ลงพื้นที่เข้าพบคนในครอบครัวของนางอัมพรฯ เพื่อสอบถามข้อมูลเบื้องต้นในกรณีที่ นางอำพรฯ ถูกหลอกให้ไปขายบริการที่เมืองดูไบ จากการสอบถามทราบว่า ได้มีญาติชักชวน นางอัมพรฯ ไปทำงานร้านนวดที่ประเทศดูไบ โดยมี น.ส.อ้อนฯ เป็นนายหน้าแนะนำ และพาไปดำเนินการติดต่อกับนายจ้างที่เมืองดูไบ และเป็นคนไปส่งที่สนามบิน โดยค่าใช้จ่าย นางอัมพรฯ เป็นคนออกค่าใช้จ่ายเอง โดยเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2565 นางอัมพรฯ และเพื่อน ได้ออกเดินทางจากประเทศไทยไปเมืองดูไบ สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อไปถึงเมืองดูไบ นางอัมพรฯ ได้แยกไปทำงานคนละที่กับเพื่อน โดยนางอัมพรฯ ทำงานอยู่กับมาดามลินดา (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) และต่อมานางอัมพรฯ ได้ติดต่อบอกกับครอบครัว ผ่านทางไลน์และเมสเซนเจอร์ แจ้งว่าอยากกลับบ้าน เพราะร้านที่ทำงานไม่ใช่ร้านนวด แต่กลับเป็นสถานที่ขายบริการทางเพศ และนางอัมพรฯ ยังถูกมาดามลินดาฯ เรียกค่าดำเนินการ พามาทำงาน เป็นจำนวนเงิน 105,000 บาท ก่อนจะลดจำนวนเงินให้ โดยให้จ่ายเป็นเงิน 40,000 บาท จึงจะยอมปล่อยตัว นางอัมพรฯ กลับ
ต่อมาวันที่ 1 พฤษภาคม 2565 เวลาประมาณ 04.00 น. ทางสถานกงสุลไทย ประจำเมืองดูไบ ได้ประสานงานเจ้าหน้าที่ของทางเมืองดูไบเข้าช่วยเหลือ นางอัมพรฯ ได้ และนำตัวเข้ามาที่สถานกงสุล จนกระทั่งวันที่ 4 พฤษภาคม 2565 เวลา 15.35 น. ทาง กก.3 บก.ปคม. ได้รับตัว นางอัมพรฯ โดยมีครอบครัวของ นางอัมพรฯ เดินทางมารับ นางอัมพรฯ ที่สนามบินสุวรรณภูมิด้วย หลังจากนั้น นางอัมพรฯ จึงเข้ามาให้การกับ พงส.กก.3 บก.ปคม. ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมจัดหางาน กระทรวงแรงงาน และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อสอบปากคำ เข้าสู่กระบวนการคัดแยกเหยื่อ และดำเนินขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป
เตือนภัย ตำรวจสอบสวนกลาง ขอเตือนภัยสำหรับประชาชนที่สนใจจะไปทำงานต่างประเทศหากมีคนมาชักชวนหรืออ้างว่าเป็นนายหน้าจัดหางาน ให้สอบถามไปที่สำนักงานจัดหางานแต่ละจังหวัด ว่าบุคคลหรือบริษัท ที่มาชักชวนได้รับอนุญาตจัดหางานให้คนหางานไปทำงานในต่างประเทศหรือไม่ เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวงอันอาจจะทำให้ถูกบังคับใช้แรงงาน สูญเสียเสรีภาพ ร่างกาย และทรัพย์สินจากการชักชวนดังกล่าว หากประชาชนมีเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1191
Share this: