30 มกราคม 2564 เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 30 มกราคม 2564 ที่ห้องประชุม ศปก.สภ.เมืองอุดรธานี นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.อุดรธานี พล.ต.ต.วิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.อ.ธนาวีร์ วิชาชัย รอง ผอ.กอ.รมน.อุดรธานีพ.ต.อ.อารี สินธุรา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.พัฒนวงศ์ จันทร์พล รอง ผกก.ป.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.ชัยรัตน์ ประสารพันธ์ สวป.สภ.เมืองอุดรธานี ร่วมแถลงข่าวการจับกุม 22 หนุ่มสาวมั่วสุมจัดปาร์ตี้ยาเสพยาเสพติด โดยจับกุมเมื่อเวลา 05.00 น.วันที่ 30 มกราคม 2564 ที่ห้องพักเลขที่ 314 โรงแรมต้นคูณ ถ.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี ประกอบด้วย 1.นายวิชญ์พล ทองเนียม อายุ 32 ปี 2.น.ส.สรยา บัวบาน อายุ 33 ปี 3.น.ส.ลัดดาวัน สีสุวัน อายุ 29 ปี ชาว สปป.ลาว 4.นายอภิสิทธิ์ โกมุทธพงษ์ อายุ 25 ปี ชาว จ.หนองบัวลำภู 5.นายธนภัทร รัตนแสง อายุ 22 ปี 6.นายพิชญ ศรีสมมาตย์ อายุ 26 ปี 7.นายธวัชชัย มีลา อายุ 22 ปี 8.นายพงศธร นาสมภักดิ์ อายุ 22 ปี 9.นายเชาวลักษณ์ เหล่าสงคราม อายุ 45 ปี 10.นายสุชาติ สิงห์ทอง อายุ 22 ปี ชาว จ.ชลบุรี 11.นายณัฐพล อมรโกมินทร์ อายุ 30 ปี 12.นายณัฐพล อรรถสาร อายุ 34 ปี 13.น.ส.ปวีรา สุวรรณสิงห์ อายุ 21 ปี 14.น.ส.ฬภัทร อดุลโภควานิช อายุ 31 ปี ชาว จ.ชลบุรี 15.น.ส.ศิริลักษณ์ วงษ์พรม อายุ 24 ปี 16.น.ส.กนิฎฐา สาเจริญ อายุ 24 ปี 17.น.ส.สุทัชชา แข็งขัน อายุ 30 ปี 18.น.ส.แพรววนิต ตั้งมั่น อายุ 24 ปี 19.น.ส.นันทภรณ์ ตั้งมั่น อายุ 22 ปี 20.น.ส.สุนารี แก้วคำ อายุ 26 ปี 21.น.ส.วราภรณ์ พรมจันทร์ อายุ 27 ปี และ 22.น.ส.สุทิภัทร รามศรี อายุ 21 ปี ซึ่งส่วนมากเป็นชาว จ.อุดรธานี พร้อมของกลาง ยาเค 4 ถุง น้ำหนักรวม 2.3 กรัม ยาอี 3 เม็ด เตาไมโครเวฟ 1 เครื่อง และ โทรศัพท์มือถือ 22 เครื่อง
- สภ.ป่าแป๋ สั่งไม่ฟ้อง “ซูโม่กิ๊ก-เมีย”รุกป่าแม่แตง
- เช็กด่วน!! กทม.เปิด 21 ไทม์ไลน์ผู้ติดโควิด พบพนง.ร้านอาหารในห้างฯติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน
- ‘ยิ่งยง’ ไม่ตอบรับหมายเรียก ปคบ.เล็งเช็คเนื้อหาคนดังร่วมโปรโมทถั่งเช่า
พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า ช่วงเช้ามืดวันนี้ พ.ต.ท.พัฒนวงศ์ จันทร์พล รอง ผกก.ป.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งว่า ที่ห้อง 314 โรงแรมต้นคูณ ถ.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี มีกลุ่มชายหญิงมั่วสุมส่งเสียงดัง จึงนำกำลังสายตรวจ 191 ออกไปตรวจสอบ พบชายหญิงรวม 22 คน ผู้ชาย 10 คน ผู้หญิง 12 คน กำลังนั่งล้อมวงดื่มเหล้า ตรวจสอบในห้องพัก พบยาอี 2 เม็ด และ ยาเค 4 ถุง ตกอยู่ที่พื้นห้อง นอกจากนี้ยังพบเตาไมโครเวฟสำหรับอบยาเค จึงยึดไว้เป็นของกลาง และควบคุมตัวทั้งหมดพร้อมของกลางมาทำการตรวจปัสสาวะ พบออกมาเป็นสีม่วงทั้ง 22 คน
ซึ่งจากการสอบสวนทราบว่า นายวิชญพล ผู้จัดปาร์ตี้เป็นผู้นำยาเคและยาอีมาจากกรุงเทพมหานคร และได้ทำการชักชวนกลุ่มเพื่อนชายหญิง ผ่านทางโชเชียลมีเดีย มาปาร์ตี้ดื่มเหล้าและเสพยาที่ห้อง 314 โรงแรมต้นคูณ โดยส่วนใหญ่เป็นชาวอุดรธานี ชาว จ.ชลบุรี 2 คน ชาว จ.หนองบัวลำภู 1 คน และชาว สปป.ลาว 1 คน เมื่อเมาได้ที่ก็ส่งเสียงดัง รบกวนห้องข้างเคียง จึงแจ้งตำรวจเข้าจับกุม โดยมีนายวิชญพล รับสารภาพว่า เป็นผู้นำยาอีและยาเค มาจัดปาร์ตี้ ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่าหลังมีการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในพื้นที่ จ.อุดรธานี ไม่เคยมีมั่วสุมเสพยามาก่อนครั้งนี้เป็นครั้งแรกและเข้าจับกุม
ตำรวจจึงแจ้งข้อหา นายวิชญพล ทองเนียม ผู้ต้องหาที่ 1 เสพและมียาเสพติดประเภท1 (ยาอี) ประเภท 2 (ยาเค) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย แจ้งข้อหา น.ส.สรยา บัวบาน ผู้ต้องหาที่ 2 เสพและมียาเสพติดประเภท 1 (ยาอี) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย แจ้งข้อหา น.ส.ลัดดาวัน สีสุวัน ผู้ต้องหาที่ 3 เสพและมียาเสพติดประเภท 2 (ยาเค) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และแจ้งข้อหาผู้ต้องหาที่ 4-22 เสพยาเสพติดโดยผิดกฎหมาย และแจ้งข้อหาทั้งหมด 22 คน “ร่วมกันฝ่าฝืนข้อกำหนดซึ่งออกตาม ม.9 แห่ง พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และร่วมกันฝ่าฝืนไม่ปฎิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรค” นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.อุดรธานี เปิดเผยว่า โรงแรมที่ปล่อยให้มีการมั่วสุม จะสั่งการให้ฝ่ายปกครอง ซึ่งเป็นเจ้าของระเบียบและการตรวจตรา และอนุญาตสถานบริการประเภทโรงแรม เข้าไปตรวจสอบดูว่า ได้ปฎิบัติตามกฎหมายหรือไม่ เอาใจใส่พอสมควรหรือเปล่า ซึ่งจะรวบรวมไว้เป็นข้อมูลในการอนุญาตครั้งต่อไป ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 22 คน ได้สั่งทีมสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี เข้ามา 2 ทีม คือทีมตรวจโรคหาเชื้อโควิด-19 ว่าจะมีผู้ติดเชื้อหรือไม่ น่าจะรู้ผลในวันพรุ่งนี้ “และทีมสอบสวนโรคว่า ระหว่างทั้ง 22 คน อยู่ในพื้นที่เสี่ยงหรือไม่ เพราะบางคนมาจากพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดคือ จ.ชลบุรี จะตรวจทุกคน เพราะถ้าไปรวมกันถือว่าเสี่ยงทุกคน และสัมพันธ์กับคดี ทุกคนจะต้องกักตัวเอง 14 วัน และถ้าศาลให้ประกันตัวได้ ก็จะมีการกักตัว 14 วัน ตามมาตรารป้องกันการแพร่ระบาดของโรค แม้จะได้ประกันก็ต้องกักอยู่บ้าน ส่วนบุคคลอื่นที่ไม่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ จะให้ไปอยู่ในถานที่กักกันตัว อยู่ในที่เหมาะสม ซึ่งสาธารณสุขต้องให้ข้อมูลอีกครั้งว่า จะอยู่ที่ใด” นายสยาม กล่าว
เรื่องโดย เศกสันติ กัลยาณวิสุทธิ์ | ภาพโดย เศกสันติ กัลยาณวิสุทธิ์