วันที่ 5 มิ.ย.64 เวลา 11.30น. พ.ต.ท.ศิริชัย โพธิจักร สารวัตรสอบสวน สภ.ห้วยหลวง อ.เมือง จ.อุดรธานี รับแจ้งว่ามีพระภิกษุผูกคอเสียชีวิตภายในวัดไชยยาราม ม.5 ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานีจึงพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่มูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรม เข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบพระและชาวบ้าน ได้นำร่างของ พระยนต์ อายุ 66 ปี ลงมานอนที่พื้น ใกล้กันพบเก้าอี้สีแดง และผ้าจีวรเก่าซึ่งคาดว่าจะใช้ปีนขึ้นไปแล้วใช้จีวรผูกคอเข้ากับกิ่งของต้นมะขาม
จากการสอบถาม พระครูประสิทธิ์ ธรรมมานุศาสน์ อายุ 54 ปี เจ้าอาวาส เผยว่า ที่วัดมีพระ 8 รูป ส่วนพระยนต์จะไปๆ มาๆ ที่วัด ระยะหลังป่วยไม่ได้ไปไหนจึงมาจำพรรษาอยู่ที่วัดได้หลายปีแล้ว ทราบว่าป่วยเป็นโรคซึมเศร้า หลายครั้งเดินหายไปที่อื่น ต้องออกตามหา บางครั้งก็ขึ้นไปนั่งอยู่บนขื่อศาลา
วันนี้ช่วงฉันเช้าก็ยังปกติ ยิ้มแย้มคุยกับญาติโยมดี ช่วงสายจะมีการประกอบพิธีบวช พระก็ได้ไปที่โบสถ์เพื่อเตรียมบวช จากนั้นนาคที่จะบวชได้เดินมาทางกุฏิของพระยนต์ เห็นร่างห้อยอยู่กับต้นไม้ ทีแรกนึกว่าตุ๊กตา แต่พอเข้าไปดูจึงพบว่าเป็นศพของพระยนต์ แล้วก็มาบอกพระและญาติโยมทราบ จากนั้นได้แจ้งผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
ด้าน นางคำปูน อายุ 59 ปี น้องสาวพระยนต์ให้การว่า พระยนต์มาบวชได้หลายพรรษาแล้ว ซึ่งพระยนต์ป่วนมีโรคประจำตัว เป็นโรคซึมเศร้า ช่วงเช้าทุกตนนำอาหารมาถวายที่วัด และเอายามาให้ฉัน แล้วตนก็จะกลับไปทำนาทำสวน เป็นประจำทุกวัน แต่มาวันนี้พระยันต์ฉันอาหารเพียง 1 คำ แล้วบอกว่าอาหารไม่อร่อย จึงฉันน้ำกับยาแทน แต่ปกติพระยนต์จะมีอาการร้องไห้บ่อย แต่มาวันนี้ไม่ร้องไห้ ตนก็ไม่เอะใจ จนกระทั่งมีคนไปบอกว่าพระยนต์ผูกคอเสียชีวิต
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบไม่พบร่อยรอยการถูกทำร้าย จากการสอบถามญาติพระยันต์ป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามาหลายปีแล้ว จะชอบหายออกไปไหน ตามลำพัง ชาวบ้านและพระจะออกตามหา ซึ่งจะไปอยู่ตามที่เงียบๆหรือ บนขื่อศาลา ทางญาติไม่ติดใจในการเสียชีวิตจึงมอบศพให้ไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป