ตำรวจพร้อมหน่วยงานเกี่ยวข้อง ตรวจสอบจุดเกิดเหตุอุบัติเหตุเก๋งชนกระบะดับ 5 ศพ เผยรถเก๋งใช้ล้ออะไหล่ เล็กกว่าปกติ อาจทำให้เสียการทรงตัว ด้านลูกสาวยายวัย 75 เผย มีลางบอกเหตุก่อนเกิดเรื่อง
อาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 22.30 น.
จากกรณีเกิดอุบัติเหตุรถเก๋งฟอร์ด โฟกัส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ขข 5349 อุดรธานี เฉี่ยวชนกับ รถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีดำ ทะเบียน กง 5100 กรุงเทพมหานคร บริเวณถนนระหว่างหมู่บ้านน้ำโมง-บ้านทุ่ม ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทันที 5 ศพ และบาดเจ็บ 9 คน เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (20 ก.พ.) ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 21 ก.พ. พ.ต.อ.ศุภกร เพียรเสมอ ผกก.ตรวจสอบสำนวนและคดี บช.ภ.4 ที่ปรึกษาศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน จ.หนองคาย พ.ต.ท.กฤษฎิ์พิชญ์ สีหาชัยเจริญ รอง ผกก.สส.สภ.ท่าบ่อ พร้อมด้วย นางวิไลลักษณ์ ธรรมราช ผอ.สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย จ.หนองคาย (คปภ.) ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุเบื้องต้น โดยพบว่า จุดเกิดเหตุนั้นเป็นถนนทางตรง 2 เลนวิ่งสวนกัน ไม่มีไฟส่องสว่าง หลังเกิดเหตุยังพบชิ้นส่วนรถยนต์หล่นอยู่ไหล่ทาง และพื้นถนนยังลื่นจากคราบน้ำมันที่ไหลออกจากตัวรถ เจ้าหน้าที่ได้นำรถน้ำมาล้างถนนแล้ว
หลังจากนั้น คณะทั้งหมดได้ไปที่บ้านของ นางเงิน เกียรตินอก อายุ 75 ปี เลขที่ 88 หมู่ 1 บ้านด่านศรีสุข ต.ด่านศรีสุข อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย หนึ่งในผู้เสียชีวิต พบว่า ญาติได้ตั้งศพ นางเงิน และนางวันเพ็ญ คำภีระเกษ อายุ 61 ปี ไว้ด้วยกัน เนื่องจากเป็นพี่กับน้องกัน ส่วนศพ น.ส.มลิวัลย์ คำภีระเกษ อายุ 34 ปี คนขับรถกระบะนั้น ตั้งศพไว้ที่บ้านเลขที่ 51 หมู่ 8 บ้านภูพนังม่วง ต.ด่านศรีสุข มีญาติพี่น้องมาเตรียมงานศพให้และพากันพูดคุยถึงเหตุการณ์เศร้าสลดที่เกิดขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ คปภ.ได้มอบเช็คค่าเสียหายเบื้องต้นตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ให้กับญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย ซึ่งเป็นผู้เสียชีวิตที่อยู่ในรถกระบะ และทำประกันภัย พ.ร.บ. ตามที่กฎหมายกำหนด ได้รับเงินช่วยเหลือศพละ 35,000 บาท ส่วนผู้เสียชีวิตจากรถเก๋ง คือ นายธนชัย จันทะชาด อายุ 27 ปี คนขับ และนายชัยณรงค์ กุลแสนเต่า อายุ 37 ปี ชาว ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย นั้นตรวจสอบแล้วรถเก๋งไม่ได้ทำประกันภัย พ.ร.บ.ไว้ ญาติต้องยื่นเรื่องขอรับการช่วยเหลือจากสำนักงาน คปภ.จ.หนองคาย ก่อน
ด้าน พ.ต.อ.ศุภกร กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น อุบัติเหตุในครั้งนี้เนื่องจากผู้ขับขี่รถทั้ง 2 คันเสียชีวิตหมด สันนิษฐานได้ว่า รถเก๋งซึ่งขับมาในเลนสวนอาจจะแซงรถคันอื่นแล้วแซงไม่พ้น เป็นจังหวะเดียวกับรถกระบะขับมาทำให้เกิดเฉี่ยวชนกัน และจากการตรวจสภาพรถเก๋งพบว่า ล้อหลังด้านซ้ายมีการเปลี่ยนใช้ยางอะไหล่ ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าปกติ อาจจะขับเร็วแล้วรถเสียการทรงตัว เพราะรถไม่สมดุล จึงทำให้ชนกับรถกระบะที่สวนทางมา ส่วนประเด็นคนขับจะเมาหรือไม่นั้น ไม่สามารถเก็บตัวอย่างเลือดตรวจได้ จึงไม่สามารถระบุได้
ขณะที่ นางผงศรี ชาญนอก อายุ 49 ปี ลูกสาวของนางเงิน ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ พ่อของ น.ส.มลิวัลย์ คนขับรถ และเป็นน้องชายของนางเงิน ป่วยหนักรักษาตัวที่ รพ.หนองคาย วันเกิดเหตุได้ชักชวนกันไปเยี่ยม โดยจะไปกันหลายคนทำให้ต้องใช้รถกระบะของญาติอีกคนไป โดยให้ น.ส.มลิวัลย์ เป็นคนขับรถ มี นางเงิน นางวันเพ็ญ หลานวัย 10 ปี และเด็กเล็กวัย 3 เดือน และ 6 เดือน นั่งอยู่ในแค็บด้านหลังรถ ส่วนที่เหลืออีก 6 คนนั่งกระบะหลัง เมื่อเยี่ยมญาติที่ รพ.หนองคายเสร็จ ก็กำลังพากันเดินทางกลับบ้าน แต่ก็มาเกิดอุบัติเหตุเสียก่อน โดยเสียชีวิตทันที 3 คน ส่วนที่เหลืออีก 9 คน ถูกนำตัวส่ง รพ.สมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ 5 คน และมี 4 คน อาการสาหัส ถูกนำตัวส่งต่อที่ รพ.หนองคาย ญาติที่เหลือต้องผลัดเปลี่ยนกันไปดูแลที่ รพ.ทั้ง 2 แห่ง โดยเด็กเล็กทั้ง 2 คนอาการไม่หนัก
นางผงศรี กล่าวด้วยว่า ก่อนเกิดเหตุมีลางบอกเหตุบ้าง เพราะมีน้องสาวอีกคนหนึ่งจู่ ๆ ก็อยากตัดต้นไม้ข้างบ้านและเก็บกวาดบ้านทั้งที่ไม่เคยทำ และยังบอกว่าอยากเก็บกวาดบ้านให้แม่ ก่อนที่แม่จะเสียชีวิต ส่วนงานศพก็ยังไม่ได้หารือกันว่าจะฌาปนกิจได้เมื่อไร ประกอบกับไม่มีเงินพอจัดงานศพที่มีพร้อมกันถึง 3 ศพ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลช่วยเหลืออีกทางหนึ่งด้วย.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘เก๋ง-กระบะ’ชนสนั่นดับ5ศพ นั่งท้ายกระเด็นร่วงสาหัส9
คุณเห็นด้วยกับข่าวนี้หรือไม่
- เห็นด้วย
0%
- ไม่เห็นด้วย
0%