เวลา 16.00 น. วันที่ 24 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ น.ส.อลิสา ลายเขียน อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 988/20 หมู่ 1 ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง จ.อุดรธานี ที่ร้านชาขุนพล ซอยทองคำอุทิศ ถนนทหาร เขตเทศบาลนครอุดรธานี หลังไปแจ้งความกับ ร.ต.ท.ศุภกร ทุมจีน รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ว่าโดนมิจฉาชีพสวมรอยเป็นแอดมินเพจพิมรี่พาย หลอกให้โอนเงินเคลมสินค้ากล่องสุ่มสูญ 5 หมื่นบาท พบ น.ส.อลิสา และญาติ กำลังดูข่าวทีวีซึ่งกำลังเสนอข่าวมีผู้เสียหายโดนหลอกในลักษณะคล้ายกัน การหลอกลวงเหมือนกัน
น.ส.อลิสา เล่าว่า ตนเปิดร้านขายชา ได้สั่งซื้อกล่องสุ่ม “รัก 1” ราคา 10,000 บาท จากแม่ค้าออนไลน์พิมรี่พาย โดยจ่ายโอนเงินไปวันที่ 5 ธันวาคม 2564 ได้รับกล่องสินค้าวันที่ 22 ธันวาคม 2564 และได้เปิดกล่องลุ้นสินค้าภายในกล่องสุ่ม ปรากฏว่าได้รับสร้อยข้อมือทองคำหนักครึ่งสลึง ราคา 4,085 บาท น้ำหอมเคาน์เตอร์แบรนด์ราคา 3,200 บาท วิตามินซี ราคา 770 บาท กระติกน้ำแข็งชำรุด 1 ใบ และเครื่องสำอางจำนวนมาก รู้สึกผิดหวังเพราะคิดว่าสินค้าไม่คุ้มเงิน จึงนำเครื่องสำอางมาแจกลูกค้า โดยขณะเปิดกล่องได้ไลฟ์สดในเฟซบุ๊กตัวเองด้วย
น.ส.อลิสา เล่าต่อว่า ต่อมาได้ทราบว่าพิมรี่พายให้ลูกค้าที่ไม่พอใจสินค้ากล่องสุ่ม “รัก 1” สามารถเคลมสินค้าได้ ตนซึ่งไม่พอใจในสินค้าอยู่แล้ว อยากเคลมสินค้า จึงทักแชตเข้าไปในหน้าเพจพิมรี่พาย แจ้งความประสงค์ว่า ต้องการเคลมสินค้ากล่องสุ่ม “รัก 1” มีช่องทางใดที่จะติดต่อได้ ไม่นานก็มีหญิงคนนึงอ้างว่าเป็นแอดมินเพจตอบกลับมา พร้อมกับส่งลิงก์ไลน์ให้กดเข้าไปในไลน์แอดมิน สอบถามว่า ตนจ่ายเงินช่องทางไหน ซึ่งตนตอบไปว่า จ่ายเงินทางช่องทางโมบายแบงก์กิ้ง มีทั้งช่องทางจ่ายและรับเงิน แอดมินจึงให้ใช้ช่องทางนี้ในการรับโอนเงินคืน พร้อมกับส่งคิวอาร์โค้ดมาให้สแกนเพื่อรับเงินคืน แต่พอตนสแกนก็พบว่าเงินในบัญชีของตนถูกหักไป 10,111 บาท โดยไม่รู้ตัว
“ต่อมาแอดมินคนเดิมได้ทักแชตมาบอกว่า ให้ตรวจดูว่าเงินเข้าหรือไม่ ปรากฏว่าเงินเราถูกหักออกจากบัญชี แอดมินจึงบอกว่า มันผิดพลาด จึงส่งคิวอาร์โค้ดมาให้ใหม่ ให้สแกนเป็น 20,222 บาท คือคืนเงินกล่องสุ่ม และเงินที่โอนไป เมื่อสแกนก็พบว่าเงินได้ถูกหักออกจากบัญชีอีก เลยแจ้งไปว่าเงินไม่ได้เข้าบัญชี แต่เงินออกบัญชี แอดมินคนเดิมบอกว่า เกิดข้อผิดพลาด จะแก้ไขให้ใหม่ ก็สแกนใหม่ ครั้งนี้เงินถูกโอนออกไป 30,333 บาท ก็บอกไปว่า เงินในบัญชีตนถูกหักออกเหมือนเดิม แอดมินตอบกลับมาในลักษณะเดิม พร้อมส่งคิวอาร์โค้ดกลับมาใหม่อีกครั้ง จึงแจ้งว่าสแกนไม่ได้ เพราะตั้งโอนไว้แค่ 2 หมื่นเท่านั้น หากโอนเกินจะโดนล็อก ทางแอดมินจึงให้ส่งหน้าจอไปให้ดู จากนั้นให้สแกนใหม่ ซึ่งเงินก็โอนออกไปอีกรวม 50,555 บาท จนเงินหมด”
น.ส.อลิสา เล่าอีกว่า พอรู้ว่าเงินโอนออกไปอีกรวมเป็น 50,555 บาท รู้สึกผิดปกติแล้ว ซึ่งตนจึงบอกให้แอดมินโอนเงินคืนมาให้ตามเลขที่บัญชีที่ส่งให้ แต่แอดมินกลับถามว่า มีเงินในบัญชีอีกหรือไม่ หากไม่มีจะโอนไม่ได้ จึงฉุกคิดว่าถ้าจะโอนก็โอนเลย ทำไมต้องมีเงินในบัญชีด้วย แอดมินตอบมาว่า ถ้าจะให้โอนเข้าบัญชีจะต้องแจ้งพิมรี่พายก่อน ตนจึงขอเบอร์โทรพิมรี่พาย แต่แอดมินไม่ยอมให้ อ้างว่าต้องติดต่อแอดมินเท่านั้น หากออกโค้ดเอง เดี๋ยวแอดมินจะถูกพิมรี่พายด่า ตนบอกว่าก็สมควรแล้วที่จะถูกด่าเพราะทำงานผิดพลาด แอดมินบอกว่า พิมรี่พายจะด่าลูกค้าด้วย ซึ่งตนก็บอกว่าไม่เป็นไร แอดมินบอกว่า เหนื่อยไม่อยากพูดด้วยแล้ว เพราะตนพูดไม่รู้เรื่อง แล้วไม่ตอบกลับมาอีกเลย จึงโทรไปสอบถามที่ธนาคาร เจ้าหน้าที่ธนาคารตอบกลับมาว่า สงสัยจะถูกมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงิน ซึ่งไม่ได้สงสัยเพจพิมรี่พาย แต่สงสัยลิงก์ไลน์ที่แอดมินส่งมาจะเป็นมิจฉาชีพ
อย่างไรก็ตามรู้สึกผิดหวังกับสินค้าในกล่องสุ่ม ไม่ได้ต้องการปริมาณเครื่องสำอางที่มาก แต่อยากได้สินค้าคุณภาพมากกว่า ครั้งแรกก็ทำใจแล้ว เพราะเป็นลูกค้าของพิมรี่พาย เคยซื้อสินค้ามาใช้เอง 2 รอบ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นกล่องสุ่ม ถือว่าเราพอใจซื้อเอง แต่พอพิมรี่พายมาบอกว่า เคลมสินค้าได้ จะให้เงินลูกค้าคืน แต่สินค้าให้เลยถือว่าเป็นของขวัญปีใหม่ จึงอยากเคลมสินค้า แต่โชคร้ายก็มาเจอมิจฉาชีพ
“อยากฝากถึงพิมรี่พาย คือไม่รู้จะพูดอย่างไร เราเป็นลูกค้าไว้ใจเขาด้วยส่วนหนึ่ง สั่งของมาบ่อยแล้ว อย่างน้อยสิ่งที่เราได้รับควรมีคุณภาพบ้าง พอไม่ใช่เราก็ยอมรับชะตากรรม เพราะเราเป็นคนตัดสินใจเอง ก็ไม่ได้อะไรหนักหนา แต่พอมาเจอแบบนี้ เราพยายามติดต่อทุกช่องทาง พิมรี่พายไม่ตอบกลับมาเลย ไม่อ่านด้วยซ้ำ แถมมาเจอมิจฉาชีพสวมรอยเป็นแอดมินทำแบบนี้ หลอกเอาเงินจากเรา จึงอยากให้ออกมาแก้ไข เพราะมีหลายคนที่โดน ไม่ใช่เราคนเดียวที่โดน มิจฉาชีพก็เป็นคนเดียวกับที่ไปหลอกคนอื่น” น.ส.อลิสา กล่าวฝากถึงพิมรี่พายทั้งน้ำตา.