วันที่ 9 ตุลาคม นายชวลิต จันทรรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน)หรือทีมกรุ๊ป ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำ เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 11-19 ตุลาคม 2564 ภาคอีสานมีโอกาสที่จะมีฝนจะตกหนักต่อเนื่อง จากอิทธิพลของดีเปรสชั่น และพายุหลายลูก ได้แก่ “พายุไลออนร็อก”คาดมาถึงไทยวันที่ 10- 12 ตุลาคมนี้ ทำให้มีฝนตกปานกลางถึงหนัก ในอิสานเหนือ และอิสาตอนกลาง ตามมาด้วย”พายุคมปาซุ “คาดจะมาถึงไทยวันที่ 13-15 ตุลาคม อาจจะทำมีฝนตกปานกลางกระจายตัวในพื้นที่ภาคอิสาน ภาคกลาง ภาคตะวันตก และภาคตะวันออก และมีฝนตกหนักเป็นหย่อมๆ กระจายตัวอยู่ในพื้นที่เหล่านี้ และ อาจจะมี”พายุดีเปรสชั่น”ที่อาจจะมาถึงไทยวันที่ 17- 19 ตุลาคม อาจจะมีฝนตกมีผลกระทบเหมือนพายุคมปาซุด้วย
สำหรับ “พายุไลออนร็อก” เป็นพายุลูกที่17 ของปีนี้ ก่อตัวขึ้นบริเวณชายฝั่งตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ เคลื่อนที่มาทำให้ฝนตกหนักในตอนกลางของประเทศฟิลิปปินส์ ในวันที่ 5 ตุลาคม และจะเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ค่อนไปทางเหนือ ผ่านทะเลจีนใต้ คาดว่าจะทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน ขึ้นฝั่งไปทำให้ฝนตกหนักถึงหนักมากที่เกาะไหหลำประมาณวันที่ 8 – 9 ตุลาคม แล้วอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่น เคลื่อนตัวไปขึ้นฝั่งประเทศเวียดนาม ทำให้ฝนตกหนักถึงหนักมากที่กรุงฮานอย ประมาณวันที่ 10 ตุลาคมและเคลื่อนที่เข้าสู่ประเทศลาว โดยมีผลต่อประเทศไทย จะทำให้ วันที่ 10 -12 ตุลาคม มีฝนตกปานกลางถึงหนัก ในพื้นที่จังหวัดนครพนม สกลนคร บึงกาฬ หนองคาย อุดรธานี กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม และ มีฝนตกปานกลาง ในพื้นที่ภาคอิสาน ทั้งภาค และมีฝนตกหนักเป็นหย่อมๆ กระจายตัวอยู่ทั้งภาคอิสานด้วย
อย่างไรก็ตาม มีพื้นที่ที่เสี่ยงจะเกิดน้ำท่วม ได้แก่ อำเภอนาหว้า ศรีสงคราม ท่าอุเทน พื้นที่โดยรอบภูพาน อำเภอพรรณานิคม เมืองสกลนคร โคกศรีสุพรรณ อ่างเก็บน้ำอูน โพนพิสัย เมืองอุดรธานี เสลภูมิ พื้นที่ที่อยู่สองตลิ่งลำน้ำชี ตั้งแต่ โกสุมพิสัยมหาสารคาม ไปจนถึง เมืองยโสธร
ด้าน “พายุคมปาซุ” ก่อตัวขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิก เป็นพายุลูกที่ 18 ของปีนี้ เคลื่อนที่ไปทางทิศตะวันตก คาดว่าจะไปทำให้ฝนตกหนักถึงหนักมาก ในพื้นที่ตอนบนของประเทศฟิลิปปินส์ประมาณวันที่ 11 ตุลาคมแล้วเคลื่อนที่ ไปทำให้ฝนตกหนักในตอนใต้ของจีนเหนือเกาะไหหลำ ประมาณวันที่ 12 ตุลาคมต้องติดตามให้ใกล้ชิดว่าพายุลูกนี้จะขึ้นฝั่งเวียดนาม ที่กรุงฮานอย หรือเมืองวิญ หรือเมืองดานัง หรือ อาจจะสลายตัวไปประมาณวันที่ 13- 14 ตุลาคม ผลต่อประเทศไทย คาดว่า มีโอกาสที่จะทำให้วันที่ 13- 15 ตุลาคม อาจจะมีฝนตกปานกลางกระจายตัว โดยมีฝนตกหนักเป็นบริเวณเล็กๆ เป็นหย่อมๆ กระจายตัวอยู่ ในพื้นที่ภาคอิสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก (กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์)
โดยมีพื้นที่ที่เสี่ยงจะเกิดน้ำท่วม ได้แก่ อำเภอนาหว้า ศรีสงคราม ท่าอุเทน พื้นที่โดยรอบภูพาน อำเภอพรรณานิคม เมืองสกลนคร โคกศรีสุพรรณ อ่างเก็บน้ำอูน โพนพิสัย เมืองอุดรธานี เสลภูมิ พื้นที่ที่อยู่สองตลิ่งลำน้ำชี ตั้งแต่ โกสุมพิสัยมหาสารคาม ไปจนถึง เมืองยโสธร ชุมชนที่อยู่สองตลิ่งแม่น้ำมูล ตั้งแต่อำเภอพิมายไปถึง อำเภอพิบูลย์มังสาหาร และพื้นที่ที่อยู่สองตลิ่งลำน้ำป่าสัก ตั้งแต่ อำเภอวิเชียรบุรี อ่างเก็บน้ำป่าสักชลสิทธิ์ ถึงอำเภอท่าเรือ
ขณะที่ “พายุดีเปรสชั่น” พายุลูกที่19 ก่อตัวขึ้นในทะเลจีนใต้ คาดว่าจะไปทำให้ฝนตกหนักถึงหนักมาก ในพื้นที่ตอนใต้ของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม ประมาณวันที่ 17 ตุลาคมแล้วเคลื่อนที่ ไปทำให้ฝนตกหนักในตอนใต้ของประเทศลาว ต้องติดตามให้ใกล้ชิดว่าพายุลูกนี้จะเคลื่อนตัวมาในทิศทางใดแน่ หรืออาจจะสลายตัวไปประมาณวันที่ 18 ตุลาคม ผลต่อประเทศไทย คาดว่า มีโอกาสที่จะทำให้วันที่ 17-19 ตุลาคม อาจจะมีฝนตกปานกลางกระจายตัว โดยมีฝนตกหนักเป็นบริเวณเล็กๆ เป็นหย่อมๆ กระจายตัวอยู่ ในพื้นที่ภาคอิสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก (กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์) โดยมีพื้นที่ที่เสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมเช่นเดียวกันกับพายุคมปาซุ
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่