จากกรณี น.ส.บี นามสมมติ อายุ 34 ปี เมียหลวงสุดช้ำ โดนผัวไล่ออกจากบ้านก่อนมารู้ว่าผัวแอบซุกกิ๊ก เพราะมีผู้หวังดีส่งภาพผัวพากิ๊กไปรีสอร์ท แถมโดนกิ๊กเยาะเย้ยว่าโดนผัวทิ้ง พอไปขอหย่าผัวกลับไม่ยอม แถมยังขู่ฆ่า เจ็บใจจนต้องมาแจ้งตำรวจ อ้างมีใบทะเบียนสมรส ไม่ยอมแบ่งทรัพย์สินให้ผัว จะเอาไว้ให้ลูก ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 ความคืบหน้าดังกล่าวผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านนางซี นามสมมุติ อายุ 70 ปี และนายคิด นามสมมุติ อายุ 75 ปี ที่บ้านพัก ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมือง จ.อุดรธานี พ่อแม่ของนาย ก นามสมมติ อายุ 45 ปี ที่ถูก น.ส.บี กล่าวหาว่า นาย ก ไล่ออกจากบ้าน เพราะมีเมียน้อยแถมขู่ฆ่า และไม่ยอมหย่าให้ โดยนางแดง เปิดเผยว่า เมื่อ 24 ปีก่อน พวกตนไปสู่ขอ น.ส.บี ให้ลูกชายค่าสินสอดเงินสด 5 หมื่นบาท ทองรูปพรรณหนัก 2 บาท มีลูกด้วยกันเป็นผู้ชาย 2 คน ระยะแรกลูกชายและลูกสะใภ้ก็รักกันดี ช่วยกันทำมาหากินจนเก็บเงินเก็บทองซื้อที่นาและสร้างบ้าน
- พบโครงกระดูกมนุษย์ข้างทาง คาดเสียชีวิตมาแล้ว 10 วัน
- เปิดปางช้างชายแดน ถนนสายวัฒนธรรมดึงเศรษฐกิจ
- กู้ภัยจับ “งูเหลือม” ขนาดใหญ่แอบเขมือบเป็ดไก่ชาวบ้านที่เลี้ยงไว้
นางซี บอกว่า เมื่อปี 2558 นาย ก ลูกชายตนได้เดินทางไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ 3 ปี ทำเกี่ยวกับเกษตร ส่งเงินมาให้เมียเงินเดือน 3-4 หมื่น ส่วน น.ส.บี ได้ไปสมัครทำงานเป็นแม่บ้านที่โรงงานไฟฟ้าแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี หลังจากผัวกลับมาบ้าน ปรากฏว่าเงินที่ส่งมาให้เมียไม่เหลือ แต่ผัวก็ไม่เคยต่อว่าเมียซักคำเพราะความรักเมีย ต่อมาลูกสะใภ้ได้ย้ายไปทำงานที่ จ.ฉะเชิงเทรา ผัวได้ห้ามไม่ให้เมียตามไป แต่เมียไม่เชื่อได้ไปทำงานที่ฉะเชิงเทรา ผัวก็ได้ตามไปทำงานด้วย แต่ไม่นานผัวก็ถูกย้ายไปทำงานที่ อ.ท่าลี่ จ.เลย ปล่อยให้เมียอยู่ที่ จ.ฉะเชิงเทรา คนเดียวไม่นานผัวก็กลับมาทำงานที่โรงงานน้ำตาลที่ จ.อุดรธานี และเรียกเมียกลับมาบ้าน แต่เมียไม่ยอมกลับเห็นผิดสังเกต และได้สืบรู้ว่าเมียปันใจให้ชายอื่น
นางซี บอกต่อว่า พอดีโรงไฟฟ้าได้ย้ายผู้ชายคนนั้นที่ลูกสะใภ้แอบคบไป อยู่ที่ สปป.ลาว เมียจึงต้องกลับมาอยู่บ้าน แต่ผัวเห็นเมียเล่นเฟซบุ๊กติดต่อกับชายอื่น ผัวร้องไห้มาบอกพ่อแม่ และไปบอกญาติพี่น้องฝ่ายเมียขอร้องให้เมียเลิกยุ่งกับผู้ชายอื่น แต่เมียก็ไม่สนใจผัวชอบไปเที่ยวกับเพื่อนสังสรรค์ไม่สนใจลูกผัว ไม่สนใจงานบ้านงานเรือน เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เมียได้ไปเกี่ยวข้าวกับเพื่อน และเล่าให้เพื่อนฟังว่าคิดถึงชายคนนั้นกลัวหนีตามไปอยู่กับผู้ชายคนนั้น ทำให้ผัวเสียใจหนักมาก แต่ก็ยังให้อภัย และเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาผัวจับได้ว่าเมียแอบแชทคุยกับผู้ชายอื่น จึงทะเลาะมีปากเสียงกัน และเมียจึงหนีออกจากบ้านไปเองอยู่กับเพื่อนเป็นช่างเสริมสวย ซึ่งลูกก็ไปตามกลับมาบ้านก็ไม่มาลูกชายเคยไปปรึกษากับตำรวจที่รู้จักกันจะทำอย่างไร และเคยคิดว่าจะทำร้ายภรรยา แต่เจ้าหน้าที่ก็ได้บอกเอาไว้ หากไปทำเขาเราจะติดคุกไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลย
หลังจากเมียไม่กลับบ้าน ทำให้ลูกชายพบกับผู้หญิงคนใหม่ทางเฟซบุ๊ก เป็นแม่ม่ายอายุประมาณ 40-50 ปี เป็นชาวอุบลราชธานี และลูกชายได้พามาแนะนำกับพ่อแม่ที่ จ.อุดรธานี และมีผู้หวังดีส่งรูปไปให้เมียดู ทำให้เมียมาง้อผัว แต่ผัวไม่ยอมคืนดีด้วย เพราะทนมานานมากแล้ว ส่วนที่เมียไปแจ้งว่าผัวขู่ฆ่า และไล่ออกจากบ้าน แถมยังมีหญิงอื่น ก็คงเพราะเสียดายผัว แต่ในฐานะพ่อแม่ หากผัวเมียจะหย่ากัน หรือคืนดีกันก็ไม่ได้ห้าม เพราะมันเป็นเรื่องของผัวเมีย ตนเป็นพ่อแม่ไม่เกี่ยวด้วย
เรื่องโดย เศกสันติ กัลยาณวิสุทธิ์ | ภาพโดย เศกสันติ กัลยาณวิสุทธิ์