นางราณี เสียงเลิศ อายุ 49 ปี ย่าของน้องเนย เปิดเผยว่า หลังจากพ่อและแม่ของน้องเนยแยกทางกัน ตนเองและสามีก็เลี้ยงหลาน 3 คน รวมทั้งน้องเนยซึ่งเป็นคนโตมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ด้วยฐานะทางบ้านเรายากจน เวลาตนเองออกไปทำงานรับจ้างทุกครั้งที่ไปทำงานก็จะเอาหลานทั้ง 3 คนไปด้วย แต่ในวันเกิดเหตุไม่ได้เอาหลานไปด้วย แต่เมื่อวานเขาบอกว่าเขาจะทำงานส่งครู เลยไม่ได้เอาหลานไปด้วย แต่สุดท้ายก็มาเกิดเหตุสลดดังกล่าว เสียใจจนร้องไห้ไม่มีน้ำตาแล้ว รักเขาเหมือนลูก เขาเป็นเด็กดี ใครใช้อะไรไปหมด ไม่มีว่าจะบ่นสักคำ เมื่อวานเมื่อญาติโทรไปบอกว่าเมื่อน้องเนยจมน้ำ พูดอะไรไม่ออก แขนขาอ่อนเดินแทบไม่ไหว ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ร้องไห้จนแทบขาดใจ
ย่าของน้องเนย กล่าวต่อว่า ก็อยากจะฝากเตือนพ่อแม่ผู้ปกครองให้ดูแลลูกหลานให้ดีอย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบครอบครัวของตนเอง ส่วนนายประดิษฐ์ เสียงเลิศ ปู่ของน้องเนย เปิดเผยว่า ตนเองป่วยเป็นเบาหวาน นิ้วเท้าอักเสบทำงานไม่ได้ เสียใจมากที่หลานสาวคนนี้จากไป พูดไม่ออก พูดไปร้องไห้ไป เขาเป็นเด็กใช้ง่าย บอกให้ไปไหนก็ไป บอกให้พาปู่ไป รพ. ก็อาสาขับรถจยย.พาไป ผมเสียใจมากจนไม่รู้จะพูดอะไรร้องไห้ทั้งวัน เพราะเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก แต่ด้วยฐานะเรายากจน หากผมเป็นเศรษฐีผมจะซื้อโลงศพทองคำให้หลานสาวเสียด้วยซ้ำ ผมตายแทนหลานได้
ด้านที่บ้านของ “น้องแก้ม” หรือ ด.ญ.ฐานิดา บุญจำเนียร อายุ 9 ขวบ ที่จมน้ำเสียชีวิตไปกับน้องเนย พบชาวบ้านเดินทางมาร่วมงานศพ และร่วมแสดงความเสียใจกับ นายไพบูลย์ บุญจำเนียร อายุ 66 ปี ปู่ของน้องแก้ม เปิดเผยว่า บ่ายวานนี้หลังจากตนเองกลับจากไร่มันมานอนเล่นที่แคร่หน้าบ้าน ชาวบ้านก็วิ่งมาบอกว่าน้องแก้มจมน้ำตาย ตนรีบวิ่งไปที่หนองน้ำทันที เมื่อไปเห็นร่างของหลานไม่หายใจก็แทบขาดใจ ปั๊มหัวใจหลายครั้งก็ไม่ฟื้น ก็รีบอุ้มขึ้นรถไปส่ง รพ.ไชยวาน แต่สุดท้ายหลานก็เสียชีวิต
ปู่ของน้องแก้ม กล่าวต่อว่า ตัวเองกับภรรยารักหลานคนนี้มาก ทุกเย็นหลานคนนี้จะมาเหยียบขาให้ปู่ให้หายเมื่อยเป็นประจำทุกวัน หากวิญญาณหลานคนนี้รับรู้ได้อยากบอกว่ารักหลานคนนี้มาก แต่ที่เสียใจคือพ่อกับแม่น้องแก้ม คือ นายสุเทพและนางบัวผัน บุญจำเนียร เขาไปทำงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ที่ จ.ปทุมธานี แต่ติดโควิดจึงเดินทางมารักษาตัวที่ จ.อุดรธานี ยังไม่หายป่วย แต่เมื่อรู้ข่าวว่าลูกสาวคนเดียวคือน้องแก้มจมน้ำเสียชีวิตจึงร้องไห้แทบขาดใจ อยากมางานศพน้องแก้มก็มาไม่ได้ จนเจ้าหน้าที่ต้องใช้โซ่ผูกติดกับเตียงไว้เลย
นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า มีลางสังหรณ์คืนก่อนน้องแก้มจะจมน้ำเสียชีวิต ไม่คิดจะเป็นจริงตามคำโบราณว่า เพราะคืนนั้นตนเองได้ยินเสียงกามาร้องใกล้บ้านทางทิศตะวันออกของบ้าน ตนก็เอะใจกาอะไรมาร้องตอนกลางคืน ตอนแรกไม่คิดว่าใช่ แต่บ่ายวันต่อมาพอหลานจมน้ำตายก็มาคิดว่ากามาร้องเหมือนจะบอกลางร้ายอะไรบางอย่าง เพราะชาวบ้านเชื่อว่า ถ้ามีการ้องหรือกาผ่านหมู่บ้านต้องมีละศพหนึ่งหรือสองศพแน่นอน แต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับหลานสาวคนเดียวของตนเอง จุดเกิดเหตุสระน้ำก็อยู่ทางทิศตะวันออกของบ้าน ห่างจากบ้านเกือบกิโลเมตร
ส่วน น้องเฟิร์ส วัย 9 ขวบ เพื่อนที่งมหอยและเห็นเพื่อนจมน้ำต่อหน้าต่อตา กล่าวว่า ได้ชวนกันมางมหาหอยที่สระน้ำท้ายหมู่บ้าน มีพี่เนย น้องแก้ม พี่ดาด้า และหนู พอมาถึงก็พากันลงน้ำงมหาหอยใกล้ๆ ฝั่ง จากนั้นพี่เนยและน้องแก้มก็พากันเดินไกลฝั่งไปบริเวณจุดที่จมน้ำ ไม่นานก็เห็นน้องแก้มลื่นไถลไปตรงน้ำลึกจมน้ำทันที และพี่เนยก็จะไปช่วยก็จมน้ำไปอีกคน หนูก็วิ่งจะเข้าไปช่วยและกำลังจะจมน้ำ พอดีมีชาวบ้านมาช่วยหนูก็รอดมาได้อย่างหวุดหวิด รู้สึกเสียใจและตกใจมากที่เห็นเพื่อนมางมหอยด้วยกันจมน้ำต่อหน้าต่อตา.