อุตุฯโต้ข่าวลือพายุ ‘ชบา’ จ่อเข้าไทย ไม่ได้มาจากข้อมูลของกรม พรุ่งนี้ภาคเหนือร้อนสุด 40 องศา
เมื่อวันที่ 24 เมษายน กรมอุตุนิยมวิทยา ออกเอกสารข่าวชี้แจงลือ จับตา “ชบา” ว่าที่พายุลูกใหม่จ่อเข้าไทย โดยระบุว่าที่พายุ “ชบา” จากแบบจำลอง NAVGEM ล่าสุด จ่อเข้าเวียดนามตอนกลาง และมีแนวโน้มจะเคลื่อนผ่าน จ.อุบลราชธานี ในลักษณะพายุดีเปรสชั่น ในช่วงวันที่ 30 เมษายนนี้
กรมอุตุนิยมวิทยาขอชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าวมิได้มีที่มาจากข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยา และเป็นข้อความที่มาจากบุคคลที่ไม่มีหน้าที่รับผิดชอบ หรือหน่วยงานที่แจ้งเตือนภัยธรรมชาติโดยตรง และเป็นข้อความที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ซึ่งข้อมูลนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ ถ้าหากพิจารณาจากข้อมูลแบบจำลองบรรยากาศเพียงแบบจำลองเดียวอาจไม่เพียงพอ จะต้องวิเคราะห์ข้อมูลอื่นๆ ร่วมด้วย
จากการติดตามและการคาดการณ์สภาวะอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่าในช่วงวันที่ 29 เม.ย.-3 พ.ค.65 ประเทศไทยจะมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้นจากอิทธิพลของลมตะวันออก ลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุม และอาจจะมีหย่อมความกดอากาศต่ำก่อตัวบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางได้ แต่ในช่วงวันเวลาดังกล่าวยังมีความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนจะแผ่ลงปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน อากาศเย็นและแห้ง เป็นอุปสรรคต่อทิศทางและการก่อตัว
หรือหากหย่อมความกดอากาศต่ำนี้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุ ตามสถิติส่วนใหญ่พายุนี้จะเคลื่อนตัวกลับไปทางทิศเหนือ หรือตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่ทะเลจีนใต้ตอนบน หรืออาจจะอ่อนกำลังลงและสลายตัวก่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามได้ อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามข่าวพยากรณ์อากาศเป็นระยะๆ เนื่องจากขณะนี้อยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านฤดูกาลก่อนเข้าสู่ฤดูฝน ทิศทางลมมีหลายกระแสและแปรปรวน
สำหรับการตั้งชื่อพายุหมุนเขตร้อนได้กำหนดตามตารางที่จัดเรียงไว้แล้ว ตามข้อตกลงที่กรมอุตุนิยมวิทยา RSMC โตเกียว และ องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ได้เผยแพร่และปรากฏบนเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา https://www.tmd.go.th/info/TCNamelist_2021.pdf ซึ่งการเรียกขานชื่อพายุที่เกิดขึ้นในบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกและทะเลจีนใต้จะขึ้นอยู่กับว่าพายุลูกใดที่เกิดขึ้นก่อน จะได้ชื่อเรียงตามลำดับในตารางดังที่ปรากฏ
ขอให้ติดตามข่าวสาร ประกาศแจ้งเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยา หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบตามกฎหมายเท่านั้น หากมีสงสัย หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยสภาพอากาศ สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา : https://www.tmd.go.th, Facebook กรมอุตุนิยมวิทยา Application Thai weather สายด่วน 1182 (ตลอด 24 ชั่วโมง)
สำหรับ พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ในภาคเหนือ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย
ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อน ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 17.00 น. วันนี้ ถึงเวลา 17.00 น. วันพรุ่งนี้
ภาคเหนือ อากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครพนม สกลนคร อุดรธานี ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์
สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคกลาง อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38-39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
ภาคตะวันออก อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 25-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.